จุลินทรีย์ ไบโอเทคโนโลยี นวัตรกรรมเพื่อสิ่งแวดล้อม

บริษัท เบสท์ แคร์ อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) จำกัด

บริษัท เบสท์ แคร์ อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) จำกัด  หรือ BCI   ก่อตั้งขึ้นเมื่อ 19 เมษายน 2544  โดยเริ่มการดำเนินธุรกิจ ในการเป็นบริษัทที่ปรึกษาระบบบำบัดน้ำเสีย ขึ้นทะเบียนเป็นผู้ควบคุมระบบบำบัดมลพิษ โดยได้รับการรับรองจากกรมโรงงานอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม  รวมถึงการผลิตและวิจัยต่อยอดเทคโนโลยีชีวภาพครบวงจรที่มีประสิทธิภาพที่เป็นเทคโนโลยีของคนไทย เริ่มจากเทคโนโลยีไบโอกรีส เพื่อนำมาใช้ป้องกันและแก้ไขปัญหาไขมัน กลิ่นเหม็น และ บำบัดน้ำเสีย  

จากประสบการณ์การบริหารจัดการและแก้ไขปัญหาน้ำเสีย  พบว่าสาเหตุที่สำคัญและมีความจำเป็นต้องดำเนินการป้องกันและแก้ไขไปควบคู่กับปัญหาน้ำเสีย คือ ปัญหาการจัดการขยะ ที่ยังไม่เป็นระบบ ขาดจิตสำนึก ขาดความรู้ ความเข้าใจ และยังขาดการบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพในการลดปริมาณขยะ การคัดแยก การรวบรวม การใช้ประโยชน์จากขยะ และการนำไปกำจัดต่ออย่างถูกต้องเหมาะสมและตรงตามหลักวิชาการ  โดยเฉพาะขยะอินทรีย์ที่มีมากกว่า 50% ของขยะที่ถูกทิ้งปนกับขยะทั้งหมด สร้างภาระปัญหาตามมามากมายทั้งกลิ่น น้ำเสีย แหล่งเพาะพันธ์พาหะนำโรค อุจาดสายตาและเสียทัศนียภาพที่ดี ทาง BCI  จึงได้พัฒนาเทคโนโลยีเบสท์ดีเอ็ม เพื่อนำมาใช้จัดการเปลี่ยนขยะอินทรีย์ ให้เกิดเป็นประโยชน์เป็นผลิตภัณฑ์ใหม่  ทั้งปุ๋ยหมักชีวภาพ น้ำชีวภาพ  และน้ำยาทำความสะอาดชีวภาพ  ตามแนวคิด Zero Waste การจัดการขยะเหลือศูนย์ ณ แหล่งกำเนิด

ตลอดระยะเวลากว่า 17 ปี ในการดำเนินธุรกิจด้านสิ่งแวดล้อม  ทางบริษัทฯ ตระหนักว่าการแก้ไข ป้องกัน เพื่อเยียวยาสิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืน  ไม่สามารถแก้ไขที่ปัญหาปลายทางโดยลำพังแต่ละฝ่าย   จำเป็นต้องอาศัยการปลูกจิตสำนึก ให้ความรู้และสร้างการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคการศึกษา และภาคประชาชน       ทางบริษัท ฯ   จึงได้ขยายธุรกิจเพื่อให้ครอบคลุมการจัดการสิ่งแวดล้อมได้อย่างยั่งยืน โดยได้ขึ้นทะเบียนเป็นบริษัทที่ปรึกษากับศูนย์ข้อมูลที่ปรึกษาไทย  กระทรวงการคลัง  เป็นที่ปรึกษาประเภท A หมายเลข 3427 ในฐานะที่ปรึกษาสาขาการประปาและสุขาภิบาล และที่ปรึกษาสาขาสิ่งแวดล้อม  ในปี 2554      เพื่อสามารถสร้างงานและบริหารโครงการที่ปรึกษาของภาครัฐ  รัฐวิสาหกิจ ภาคเอกชน   เพื่อบริษัท ฯ สามารถเข้าไปมีบทบาทในการกำหนดนโยบายและแผน  พร้อมทั้งการดำเนินการจัดการสิ่งแวดล้อมอย่างเป็นระบบกับภาคส่วนต่างๆ ได้  อีกทั้งยังเป็นการสร้างภาพลักษณ์และชื่อเสียงให้กับองค์กรจนเป็นที่รู้จัก ได้รับการยอมรับทางวิชาการและสังคมได้มากขึ้น โดย BCI เป็นที่ปรึกษาให้เกิดโครงการสีเขียวที่โดดเด่นหลายโครงการ  ได้แก่ 

โครงการ Zero Waste , โครงการผลิต Biogas  , โครงการคลองสวยน้ำใส , โครงการเกษตรอินทรีย์ , โครงการอุตสาหกรรมสีเขียว   โครงการที่รู้จักแพร่หลาย   เช่น Zero Waste By Ptt , Bangkok Green Community โดย สำนักสิ่งแวดล้อม กรงเทพมหานคร,  โครงการจัดการน้ำเสียชุมชนแก้วนิมิตร โดย จังหวัดปทุมธานี, โรงเรียนรักษ์น้ำ โดย อบจ.พระนครศรีอยุธยา  , โครงการ Recycle 360 องศา โดยมูลนิธีโคคา-โคล่า เป็นต้น   นอกจากนี้ BCI ยังได้รับความไว้วางใจนำเทคโนโลยีชีวภาพไปใช้ในการจัดการน้ำเสีย-ไขมัน ในองค์กรหลายแห่ง ได้แก่ SCG , ปตท , Mc Donald  , KFC , บุญรอดบริวเวอรี่ ,    Tesco Lotus ,  Tipco Food , CAT , True , Pepsico , ตลาดยิ่งเจริญ , สโมสรตำรวจ , ท่าอากาศยานไทย,  โรงงานน้ำพริกเผาไทยแม่ประนอม  , กองทัพอากาศ , สโมสรกองทัพเรือ , โรงงานน้ำตาลและอ้อย , โรงเอดสัตว์  และหน่วยงานราชการอื่น ๆ อีกมากมาย เช่น เมืองพัทยา , อบจ.ระยอง , ทสจ.นนทบุรี , ทสจ.ประจวบคีรีขันฑ์ , ทสจ. ราชบุรี

หลังจากประสบความสำเร็จด้านการใช้จุลินทรีย์ชีวภาพ เพื่อแก้ไขปัญหาและบำบัดสิ่งแวดล้อมแล้ว  ทาง BCI ได้เริ่มพัฒนานำเอนไซม์ BCI มาต่อยอดสร้างผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด  ที่มีฤทธิ์เป็นกลาง มีความปลอดภัยต่อผิวสัมผัสของคนใช้และทุกวัสดุพื้นผิว  มีประสิทธิภาพสูงในการขจัดคราบน้ำมันทุกชนิด  ทั้งน้ำมันจากปิโตรเคมีและน้ำมันอินทรีย์ ทำงานได้รวดเร็วเทียบเทียมสารเคมี  สามารถใช้ในการกำจัดคราบสกปรก กำจัดคราบสนิม และป้องกันการเกิดสนิม  และใช้ในการชำระล้างคราบมันต่างๆ เช่น คราบน้ำมันตามพื้น น้ำมันจากเครื่องจักร อุปกรณ์เปื้อนคราบน้ำมัน  ใช้ทำความสะอาดได้ตังแต่อุตสาหกรรมถึงครัวเรือน  โดยไม่ทิ้งสารตกค้างและไม่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อ  นอกจากกำจัดคราบน้ำมันได้ดีแล้ว  สามารถใช้ในการล้างมือที่เปื้อนคราบน้ำมันอย่างอ่อนโยน และกำจัดกลิ่นเหม็นของน้ำมัน กลิ่นยาง กลิ่นเหม็นทุกชนิดได้อย่างดี   จึงถือได้ว่า กลุ่ม BCI ประสบความสำเร็จในการสร้างสรรค์นวัตกรรม GREEN & CLEAN ได้อย่างลงตัวและครบวงจร

นอกจากนี้  ทาง BCI  ได้ร่วมมือทำโครงการวิจัยพัฒนาสร้างสรรค์นวัตกรรม ร่วมกับ เนคเทค สวทช. พัฒนาระบบการจัดการบ่อเลี้ยงกุ้งด้วยเทคโนโลยี  Key 5 Rule  เพื่อจัดการดิน น้ำ ให้ปลอดภัย เพื่อกุ้งมีสุขภาพดี   และได้คิดค้นพัฒนาระบบติดตามตรวจสอบความสมดุลย์ของน้ำและดินในบ่อเลี้ยวกุ้งขึ้น หรือเรียกว่า Smart Aqua Monitoring System  ขึ้นเป็นครั้งแรก  เพื่อเป็นประโยชน์ต่อวงการประมงอย่างแท้จริง  

ทาง BCI  มีความมุ่งมั่นพัฒนาทั้งการสร้างสรรค์นวัตกรรมการผลิต  และการตลาดโดยไม่หยุดยั้ง  ซึ่งนอกจากในเมืองไทยแล้ว  ทางกลุ่ม BCI  ได้ขยายต่อยอดธุรกิจด้านสิ่งแวดล้อมเข้าสู่ประชาคมอาเซียน  โดยได้จับมือกับ Partner ในแต่ละประเทศ  เพื่อเผยแพร่นำเทคโนโลยีชีวภาพของคนไทย และ กระบวนการ BCI (Bio City Innovations)  เข้าสู่ตลาดการค้าต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง   โดยเริ่มจาก ประเทศลาว  ประเทศพม่า ประเทศมาเลเซีย  ประเทศอีนเดีย ประเทศสิงคโปร์  ประเทศดูไบ  และ สหรัฐอเมริกา

เพื่อให้เกิดการขยายผลในการดำเนินธุรกิจด้านการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ชีวภาพ  และการขยายเครือข่ายพันธมิตรการค้าในทางธุรกิจที่ชัดเจน     จึงได้เพิ่มบริษัทเครือข่ายการตลาดขึ้นใหม่ ชื่อ บริษัท บีซีไอ เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด   ในปี 2553  เพื่อรับผิดชอบทำการขายผลิตภัณฑ์ และงานบริการในประเทศไทย   และ บริษัท บีซีไอ อินเตอร์เทรด (ประเทศไทย) จำกัด  ในปี 2557   เพื่อรับผิดชอบทำการขายผลิตภัณฑ์ และงานบริการในต่างประเทศ 

 

 

หัวเชื้อจุลินทรีย์

BEST CARE INTERNATIONAL (THAILAND) CO.,LTD.

55 Soi Thungmangkorn 1, Chimplee, Talingchan, Bangkok 10170

BCI Call center :

02-880-4744 , 02-880-4787 ,

088-022-3533 , 088-022-3534 ,

088-022-3535 , 088-022-3536

BCI Fax : 02-448-5332


Office hours : Monday to Friday 08:30 AM – 05:30 PM (08.30 – 17.30น.)
บำบัดน้ำเสีย
bcithailand

ปรัชญาองค์กร

สร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์สีเขียวและกระบวนการสีเขียว
เพื่อร่วมรักษาสิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืน
ด้วยรูปแบบธุรกิจที่สามารถสร้างการเติบโตขององค์กรได้
ด้วยความสุขร่วมกันของเจ้าของกิจการ พนักงาน และสังคม

วิสัยทัศน์องค์กร

  1. พัฒนาแนวทางและสร้างผลิตภัณฑ์ที่ใช้ในการดูแลรักษาสิ่งแวดล้อม เกษตรกรรม  และการสาธารณสุข-ป้องกันโรค อย่างยั่งยืน
  2. โดยใช้จุลินทรีย์ที่ผ่านกระบวนการผลิตที่มีมาตรฐาน มีกระบวนการ วิธีการนำไปใช้ได้ง่าย  และเห็นผลอย่างชัดเจน รวดเร็ว
  3. ดำเนินการทั้งในระดับมหภาคจนถึงระดับครัวเรือน  ผ่านกระบวนการให้ความรู้กับหน่วยงานภาครัฐ องค์กรเอกชน และครัวเรือน

การเปลี่ยนแปลงของกิจการ

ขึ้นทะเบียนที่ปรึกษากับศูนย์ข้อมูลที่ปรึกษาไทย  กระทรวงการคลัง  เป็นที่ปรึกษาประเภท A หมายเลข 3427 ในฐานะที่ปรึกษาสาขาสิ่งแวดล้อม  และสาขาการประปาและสุขาภิบาล  ในปี 2554  เพื่อสามารถสร้างรองรับงานโครงการที่ปรึกษาขนาดใหญ่ของภาครัฐและรัฐวิสาหกิจได้ เทียบเท่ากับมหาวิทยาลัยหรือสถาบันด้านสิ่งแวดล้อมที่มีชื่อเสียง    เพื่อเป็นการสร้างภาพลักษณ์และชื่อเสียงให้กับองค์กร  รวมทั้งทำให้ผลิตภัณฑ์ของบริษัทเป็นที่รู้จัก ได้รับการยอมรับทางวิชาการ และกระจายสู่ตลาดได้ง่ายและรวดเร็ว  ทั้งในประเทศและต่างประเทศ

ความสำเร็จ / อุปสรรคที่ผ่านมา

ผลงานของบริษัทมีหลายกลุ่ม ทั้งภาครัฐและเอกชน เป็นกลุ่มที่มีชื่อเสียงและเป็นที่รู้จักทั้งระดับประเทศและระดับโลก ได้แก่
- ภาคเอกชน ประกอบด้วยเครือข่ายหลายธุรกิจ ได้แก่
* รัฐวิสาหกิจ ได้แก่ บริษัท ปตท จำกัด (มหาชน) , บริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน), บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน)
* ห้างสรรพสินค้า ได้แก่ บริษัท เทสโก้ โลตัส จำกัด(มหาชน) , บริษัท เซ็นทรัล จำกัด (มหาชน)
* โรงงานแปรรูปอาหารและเครื่องดื่ม ได้แก่ บริษัท ทิปโก้ ฟู้ดส์ จำกัด (มหาชน) , บริษัท บุญรอดบิวเวอรี่ จำกัด (มหาชน) ,
* ตลาดสดและร้านอาหาร ได้แก่ ตลาดยิ่งเจริญ , ตลาด อตก. , ตลาดเงินวิจิตร , บริษัท เคเอฟซี จำกัด , บริษัท แม็คไทย จำกัด , บริษัท เอสแอนด์พี จำกัด , บริษัท เป็บซิโค จำกัด (มหาชน) , ร้านนิตยาไก่ย่าง
* กลุ่มอาคารสูง สำนักงาน ได้แก่ บริษัท ทรู จำกัด (มหาชน) , บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน)
* กลุ่มโรงพยาบาล ได้แก่ โรงพยาบาลเจ้าพระยา , โรงพยาบาลเกษมราษฏร์ , โรงพยาบาลธนบุรี , โรงพยาบาลวชิระ
- ภาครัฐ ได้แก่ สำนักพระราชวังสวนจิตรลดา , สำนักสิ่งแวดล้อม กรุงเทพมหานคร , กองทัพอากาศ , กองทัพเรือ, สำนักงานตำรวจแห่งชาติ , กรมควบคุมมลพิษ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม , อบจ.ระยอง , อบจ.พระนครศรีอยุธยา , สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จ.ราชบุรี , สำนักงานจังหวัดปทุมธานี , สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดนนทบุรี , เทศบาลนครรังสิต , เทศบาลบางบัวทอง , สำนักงานเขตกรุงเทพมหานคร , รวมทั้งเทศบาลและองค์กรบริหารส่วนตำบลอีกหลายแห่ง เป็นต้น